ออรัล เซ็กส์ เป็นรูปแบบหนึ่งของกิจกรรมทางเพศที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกเพศทุกวัย รวมถึงในกลุ่ม LGBTQ+ ด้วยความที่ไม่มีการสอดใส่เข้าอวัยวะเพศโดยตรง หลายคนจึงมองว่าปลอดภัย หรือ ไม่มีโอกาสติดโรค แต่ในความเป็นจริง ออรัลเซ็กส์ยังคงมีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หลายชนิด ทั้งซิฟิลิส หนองใน เริม ไวรัส HPV และแม้แต่ HIV ในบางกรณี

ออรัล เซ็กส์ คืออะไร?
ออรัลเซ็กส์ (Oral Sex) คือ การกระตุ้นอวัยวะเพศของคู่นอนด้วยปาก ลิ้น หรือริมฝีปาก เพื่อให้เกิดความพึงพอใจทางเพศ โดยไม่จำเป็นต้องมีการสอดใส่ ออรัล เซ็กส์ เป็นกิจกรรมทางเพศที่พบได้ในทุกกลุ่มความหลากหลายทางเพศ ทั้งชายหญิง คู่เกย์ คู่หญิงรักหญิง หรือคนข้ามเพศ และอาจถูกมองว่า ปลอดภัยกว่าเซ็กส์แบบสอดใส่ แต่ในความเป็นจริง ยังมีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน
ประเภทของออรัล เซ็กส์
- Fellatio (เฟลเลชิโอ) คือ การใช้ปาก หรือปากกับลิ้นเลีย ดูด หรืออมอวัยวะเพศชาย (องคชาต) เพื่อกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกทางเพศ มักพบในคู่รักชาย-หญิง และชาย-ชาย
- Cunnilingus (คันนิลิงกัส) คือการใช้ปาก และลิ้นเลียบริเวณอวัยวะเพศหญิง รวมถึงคลิตอริส แคมใหญ่ แคมเล็ก และช่องคลอด มักพบในคู่ชาย-หญิง และหญิงรักหญิง
- Anilingus (อะนิลิงกัส) หรือ Rimming คือการใช้ปาก หรือลิ้นเลียบริเวณทวารหนัก พบได้ทั้งในกลุ่มชายรักชาย กลุ่มรักต่างเพศ หรือกลุ่มหลากหลายทางเพศอื่น ๆ โดยมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินอาหาร และเชื้อทางเพศสัมพันธ์เช่นกัน
เหตุผลที่คนส่วนใหญ่นิยมออรัลเซ็กส์
- เป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องสอดใส่
- ช่วยกระตุ้นอารมณ์ก่อนมีเพศสัมพันธ์
- ให้ความสุขทางเพศได้แม้ไม่มีการมีเซ็กส์แบบสอดใส่
- เหมาะกับคนที่ยังไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ แต่ยังอยากใกล้ชิดกับคู่นอน
ออรัล เซ็กส์ เสี่ยงติดโรคอะไรได้บ้าง?
แม้จะไม่มีการสอดใส่ แต่การสัมผัสของปากกับของเหลวในร่างกายก็สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้ โดยโรคที่สามารถติดต่อผ่านออรัลเซ็กส์ ได้แก่:
- เอชไอวี (HIV) แม้ความเสี่ยงจะต่ำกว่าการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนัก แต่ก็มีความเสี่ยง โดยเฉพาะหากมีแผลในช่องปาก หรือฝ่ายรับมีปริมาณไวรัสสูง
- ซิฟิลิส (Syphilis) ติดต่อได้ง่ายมากจากแผลริมแข็งหรือแผลภายในปาก
- หนองในแท้ (Gonorrhea) ติดต่อผ่านของเหลวในร่างกาย โดยเฉพาะน้ำอสุจิ หรือสารคัดหลั่งจากช่องคลอด
- หนองในเทียม (Chlamydia) สามารถติดในลำคอหากทำออรัลกับผู้ที่ติดเชื้อ
- ไวรัสตับอักเสบบี (HBV) และซี (HCV) โดยเฉพาะในกรณีที่มีเลือดปน
- เริม (Herpes Simplex Virus) ติดต่อได้แม้ในช่วงที่ไม่มีตุ่มผื่นขึ้น
- หูดหงอนไก่ (HPV) สามารถแพร่ผ่านทางออรัลเซ็กส์ และมีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งช่องปาก และลำคอ
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากออรัล เซ็กส์
แม้ออรัลเซ็กส์จะถูกมองว่า ปลอดภัยกว่า การมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ แต่ก็ยังมีโอกาสติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างร่วมด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้เชื้อโรคมีโอกาสเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ดังนี้
มีแผลในปาก เหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์ (เหงือก และเนื้อเยื่อรอบฟันอักเสบ)
- เมื่อเยื่อบุในช่องปากมีความเสียหาย เช่น แผลร้อนใน แผลจากการแปรงฟันแรง ฟันคุด เหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์ จะทำให้เชื้อโรคสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย โดยเฉพาะเชื้ออย่าง HIV, ซิฟิลิส, เริม หรือ ไวรัสตับอักเสบบี/ซี ซึ่งสามารถแพร่เชื้อผ่านเลือดหรือของเหลวในร่างกาย
- ตัวอย่าง: หากคุณมีแผลในปาก และทำออรัลเซ็กส์กับคู่นอนที่มีเชื้อเริม ก็มีโอกาสติดเชื้อได้โดยตรงผ่านทางแผล
การมีออรัลเซ็กส์กับคู่นอนที่ไม่ทราบสถานะสุขภาพทางเพศ
- หากคุณไม่ทราบว่าอีกฝ่ายมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะสัมผัสกับเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีคู่นอนหลายคน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย และไม่ได้ตรวจสุขภาพทางเพศเป็นประจำ
- ข้อมูลทางการแพทย์พบว่า ผู้ที่ไม่รู้สถานะสุขภาพของตนเองมีโอกาสแพร่เชื้อได้สูงกว่าผู้ที่ตรวจ และรักษาอย่างสม่ำเสมอ
การหลั่งในปาก และการกลืนน้ำอสุจิ
- แม้จะมีการถกเถียงกันว่าการกลืนน้ำอสุจิสามารถทำให้ติดเชื้อได้หรือไม่ แต่ในความเป็นจริง น้ำอสุจิสามารถมีเชื้อโรคปะปนอยู่ เช่น HIV, ซิฟิลิส, หนองใน, แผลริมอ่อน และไวรัสตับอักเสบบี/ซี ซึ่งหากมีบาดแผลหรือความเสียหายในเยื่อบุปาก หรือคอหอย ก็สามารถติดเชื้อได้
- ยิ่งมีการหลั่งในปากบ่อยโดยไม่มีการป้องกัน ยิ่งเพิ่มโอกาสสะสมเชื้อโรคที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อในลำคอหรือทางเดินอาหารส่วนต้น
ไม่ใช้ถุงยางอนามัย หรือแผ่นยางป้องกัน (Dental Dam)
- การไม่ใช้ถุงยางอนามัย หรือไม่ใช้แผ่นยางป้องกันขณะทำออรัลเซ็กส์ ถือเป็นการเปิดทางให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดายผ่านปาก ลิ้น ริมฝีปาก หรือคอ โดยเฉพาะในกรณีที่มีสารคัดหลั่ง น้ำอสุจิ หรือเลือดปะปน
- การใช้ถุงยางอนามัย ในกรณี fellatio (ทำออรัลให้ผู้ชาย) หรือ แผ่นยาง Dental Dam ในกรณี cunnilingus (ทำออรัลให้ผู้หญิง) หรือ anilingus (เลียทวารหนัก) ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก

วิธีป้องกันโรคจากออรัล เซ็กส์
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อทำออรัลกับอวัยวะเพศชาย ควรเลือกถุงยางรสหรือกลิ่นเพื่อเพิ่มความรู้สึก
- ใช้ Dental Dam เป็นแผ่นยางบางใช้ป้องกันระหว่างปากกับช่องคลอดหรือทวารหนัก
- หลีกเลี่ยงการมีแผลในปาก ไม่ควรทำออรัลเซ็กส์ในขณะที่มีแผล ร้อนใน เหงือกอักเสบ หรือเพิ่งถอนฟัน
- ไม่กลืนน้ำอสุจิหรือสารคัดหลั่ง หากไม่ทราบสถานะทางสุขภาพของคู่นอน
- ตรวจสุขภาพทางเพศเป็นประจำ ทั้งตนเอง และคู่ โดยเฉพาะหากเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ฉีดวัคซีนป้องกัน HPV และไวรัสตับอักเสบบี เพื่อป้องกันโรคที่เกี่ยวข้อง
คำถามที่พบบ่อย และความเข้าใจผิดเกี่ยวกับออรัล เซ็กส์
- ออรัล เซ็กส์ ปลอดภัย 100% จริงไหม?
ไม่จริง ออรัลเซ็กส์มีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น HPV, เริม, ซิฟิลิส, หนองใน และไวรัสตับอักเสบ ถึงแม้โอกาสจะน้อยกว่าการสอดใส่ แต่ก็ ไม่ใช่ความเสี่ยงศูนย์
- ถ้าคู่ไม่มีอาการ แปลว่าไม่มีโรค?
ไม่จริง โรคติดต่อหลายชนิด เช่น HPV หรือหนองในเทียม อาจไม่มีอาการใด ๆ โดยเฉพาะในช่องปาก จึงอาจแพร่เชื้อได้โดยไม่รู้ตัว
- แปรงฟันก่อนมีออรัล เซ็กส์ ปลอดภัยขึ้น?
ไม่ปลอดภัยขึ้นเสมอไป การแปรงฟัน หรือใช้ไหมขัดฟันก่อนมีเซ็กส์อาจทำให้เกิดแผลเล็ก ๆ ในช่องปาก ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าเดิม
- กลืนน้ำอสุจิ หรือน้ำหล่อลื่น เสี่ยงไหม?
เสี่ยงได้ หากคู่นอนมีเชื้อเอชไอวี, ซิฟิลิส หรือไวรัสตับอักเสบบางชนิด การกลืนน้ำอสุจิที่มีเชื้อปนอยู่ อาจทำให้ติดโรคได้ โดยเฉพาะหากมีแผล หรือการอักเสบในช่องปาก
- ใช้ถุงยาง/แผ่นยางป้องกัน (Dental Dam) แล้วช่วยได้จริงหรือ?
จริง การใช้ถุงยางอนามัย หรือแผ่นยางป้องกันระหว่างการทำออรัลเซ็กส์ เป็นวิธีลดความเสี่ยงที่ได้ผลดี โดยเฉพาะหากยังไม่ทราบสถานะสุขภาพทางเพศของคู่นอน
- ออรัลเซ็กส์กับคู่นอนเพียงคนเดียว ยังต้องระวังไหม?
ควรระวัง แม้ว่าคู่นอนจะมีเพียงคนเดียว แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เคยตรวจสุขภาพทางเพศเลย ก็ยังคงมีความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว ควรตรวจเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง
- ออรัลเซ็กส์กับคนรักปลอดภัยกว่าไหม?
ขึ้นอยู่กับการตรวจสุขภาพ และการพูดคุยกันอย่างเปิดเผย ความสัมพันธ์ที่ยาวนานอาจปลอดภัย หากทั้งสองฝ่ายได้รับการตรวจ และไม่มีคู่อื่น แต่ถ้ายังไม่มีข้อมูลสุขภาพที่ชัดเจน ความเสี่ยงยังคงอยู่
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
Doxy-PEP แนวทางใหม่ในการลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
รุก-รับ ความแตกต่างในความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี
ออรัล เซ็กส์ ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม และไม่ใช่เรื่องอันตราย หากรู้จักวิธีป้องกันอย่างถูกต้อง ความรู้คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางเพศได้โดยไม่ต้องเสี่ยง ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน อยู่ในความสัมพันธ์แบบใด หรือมีความชอบทางเพศเช่นไร การดูแลสุขภาพทางเพศคือสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจ
เอกสารอ้างอิง
- Centers for Disease Control and Prevention (CDC). Oral Sex and the Risk of STDs. ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากออรัลเซ็กส์. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/std/healthcomm/oral-sex-fact-sheet.htm
- World Health Organization (WHO). Sexually transmitted infections (STIs). แนวทางการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการติดเชื้อผ่านทางออรัลเซ็กส์. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/sexually-transmitted-infections-(stis)
- กระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทย. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการป้องกันและรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th
- Johns Hopkins Medicine. Oral Sex and STD Risk: What You Need to Know. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/oral-sex-and-std-risk
- Medical News Today. Oral STDs: Symptoms, prevention, and risks. ข้อมูลเกี่ยวกับอาการ ความเสี่ยง และการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทางปาก. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.medicalnewstoday.com/articles/oral-stds