ผู้หญิงก็ป้องกันได้! เปิดโลกถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง
ในอดีตเมื่อพูดถึงการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และก … Read more
ในอดีตเมื่อพูดถึงการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และก … Read more
ในยุคปัจจุบัน Chemsex กลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในวงการสุขภาพทางเพศ โดยเฉพาะในกลุ่มชายรักชาย (MSM) และกลุ่มเพศหลากหลายที่มีเพศสัมพันธ์ร่วมกับการใช้สารเสพติด ซึ่งแม้ Chemsex อาจดูเป็นพฤติกรรมส่วนตัวหรือการ “ปลดปล่อย” ในมุมมองของบางคน แต่แท้จริงแล้ว พฤติกรรมนี้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับ ความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สูงกว่าปกติอย่างมาก
ออรัลเซ็กส์ เป็นรูปแบบหนึ่งของกิจกรรมทางเพศที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกเพศทุกวัย รวมถึงในกลุ่ม LGBTQ+ ด้วยความที่ไม่มีการสอดใส่เข้าอวัยวะเพศโดยตรง หลายคนจึงมองว่าปลอดภัย หรือ ไม่มีโอกาสติดโรค แต่ในความเป็นจริง ออรัลเซ็กส์ยังคงมีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หลายชนิด ทั้งซิฟิลิส หนองใน เริม ไวรัส HPV และแม้แต่ HIV ในบางกรณี
ปัจจุบันการรักษาเอชไอวี (HIV) มีความก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งในแนวคิดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ติดเชื้อไปอย่างมาก คือ U=U หรือ Undetectable = Untransmittable ซึ่งหมายความว่า หากผู้ติดเชื้อได้รับยาต้านไวรัส (ART) อย่างสม่ำเสมอจนระดับไวรัสต่ำจนตรวจไม่พบ (Undetectable) ก็จะไม่สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นผ่านทางเพศสัมพันธ์ได้ (Untransmittable)
การใช้เข็มฉีดยาอย่างปลอดภัย เป็นหัวใจสำคัญของการลดความเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อร้ายแรง เช่น เอชไอวี (HIV) และ ไวรัสตับอักเสบชนิดต่าง ๆ (Hepatitis B และ C) การใช้เข็มร่วมกัน หรือการใช้เข็มที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โรคเหล่านี้แพร่ระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด (Injecting Drug Users: IDUs) แต่หากเรามีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติตามแนวทางที่ปลอดภัย ก็สามารถลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การติดเชื้อเอชไอวี เกิดจากการที่เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านของเหลว เช่น เลือด น้ำอสุจิ และสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศหรือทวารหนัก ความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวี จะแตกต่างกันไปตามบทบาททางเพศในระหว่างมีเพศสัมพันธ์
การป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ HIV ไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อน และยากเย็นเสมอไป เพราะคุณสามารถออกแบบการป้องกันให้เข้ากับชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างลงตัว เพียงแค่เลือกวิธีที่เหมาะสม เพื่อให้คุณมีความมั่นใจ และปลอดภัยในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถุงยางอนามัย การตรวจสุขภาพเป็นประจำ หรือการใช้ยาป้องกันก่อนการติดเชื้อ (PrEP)
การติดเชื้อเอชไอวี ถือเป็นหนึ่งในโรคติดเชื้อที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเชื้อไวรัสนี้มุ่งโจมตีเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่เรียกว่า CD4 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของภูมิคุ้มกัน บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ CD4 ว่าคืออะไร ทำไมจึงมีบทบาทสำคัญในการรักษา และควบคุมการติดเชื้อ HIV และการตรวจวัดค่าของ CD4 สำคัญต่อการดูแลสุขภาพอย่างไร
Window Period หรือช่วงเวลาที่อาจทำให้ผลตรวจเอชไอวีผิดพลาด เป็นระยะเวลาหลังจากการติดเชื้อที่ร่างกายยังไม่สร้างแอนติบอดีหรือปริมาณเชื้อไวรัสในเลือดยังไม่สูงพอที่จะตรวจพบ ทำให้ผลการตรวจอาจเป็นลบได้ทั้งๆ ที่มีเชื้ออยู่ในร่างกาย ดังนั้นการเข้าใจช่วงเวลานี้และวิธีการตรวจที่เหมาะสมจะช่วยให้การตรวจเอชไอวีมีความแม่นยำมากขึ้น
การติดเชื้อเอชไอวี (HIV) เป็นสภาวะที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ซึ่งหมายความว่าผู้ติดเชื้อเอชไอวี มีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยเป็นโรคติดเชื้อฉวยโอกาส (Opportunistic Infections) โรคเหล่านี้เกิดจากเชื้อโรคที่สามารถโจมตีร่างกายได้เมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้น
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า